ถั่วเขียวต้มน้ำตาล
ถั่วเขียวต้มน้ำตาลดูจะเป็นของหวานที่ใครๆ ก็สามารถทำกินเองได้ แต่ทำแล้วจะอร่อยรึป่าว อันนั้นถือเป็นอีกเรื่องนึงครับ
ที่ท่านว่ากันว่ามันทำง่ายที่สุด ส่วนประกอบน้อยที่สุด และตรงไปตรงมาที่สุด ง่ายขนาดลุกขึ้นมาทำตอนตีสองได้น่ะ คิดดู
วันนี้ผมมีเคล็ดลับทำให้ต้มถั่วเขียวมีน้ำใส หอม น่ากินยิ่งขึ้นครับ
บาง ท่านบอกว่าให้ต้มไปสักพัก แล้วเทน้ำทิ้ง เทน้ำสะอาดลงไป ก็จะได้ถั่วเขียวต้มน้ำตาลน้ำใสน่าทาน แต่คุณค่าทางอาหารก็เสียไปกับน้ำที่เททิ้งครับ
ผมมีวิธีทีดีกว่านั้น ครับ ก่อนที่คุณจะนำถั่วเขียวไปต้มควรนำถั่วไปคั่วก่อน เพราะการคั่วจะทำให้ถั่ว หอม เวลาต้มก็ไม่เหม็นเขียว เมื่อนำมาต้มก็ต้มน้ำน้อยๆ ก่อนให้พอแตกแล้วค่อยผสมน้ำตาลลงไป คนให้เข้ากันแล้วจึงเติมน้ำลงไปอีก ปรุงรสตามใจชอบ วิธีนี้จะทำให้ต้มถั่วเขียวของเรามีน้ำใสกิ๊งเลยทีเดียวครับ
ทีนี้ มาดูกันว่า มีอะไรเป็นส่วนประกอบบ้าง
Ingredients
1. ถั่วเขียว (คัดเอาถั่วเสีย เศษผง และ ถั่วหินออกแล้ว) 1/2 ถ้วย
2. น้ำตาลทรายแดง 1/4 ถ้วย
3. น้ำตาล ทราย 1/2 ถ้วย (ไว้แต่งรสตามชอบ)
4. เกลือ 1/8 ช้อนชา
5. น้ำ 6 ถ้วย
Direction:
1. แยกถั่วที่ดี และถั่วที่เสีย ได้โดยการนำน้ำใส่อ่างผสม และเทถั่วลงไป คัดถั่วที่ลอย และเม็ดสีดำออก
2. ล้างถั่วให้สะอาด
3.นำถั่วที่ได้คั่วด้วยไฟอ่อน จนให้มีกลิ่นหอม
- เอาถั่วที่คั่วแล้ว ไปแช่น้ำเปล่าประมาณ 3 ชั่วโมง (ผมล่อไปทั้งคืน)
- ช่วงนี้แหล่ะที่ถั่วจะขยายตัว ก็คอยมาเติมน้ำสักครั้งเมื่อเวลาผ่านไป 1 ชั่วโมงครึ่ง ก็จะกำลังดี
- เหตุที่ีต้องแช่น้ำทิ้งไว้ 3 ชั่วโมงก็เพราะจะได้ไม่ต้องต้มนาน
- ถ้าใจร้อน หรือเวลาจำกัด ท่านว่าให้แช่ถั่วในน้ำร้อน (ผมก็ไม่เคยลองเหมือนกัน)
4. นำถั่วเขียวลงไปต้ม (ปริมาณน้ำกะเอา) เมื่อน้ำเดือด ปรับไฟเป็นไฟอ่อน อย่าเพิ่งใส่น้ำตาลเด็ดขาด ต้มไปจนกว่า ถั่วจะสุกนุ่ม บานเล็กน้อย
5. ต้มๆ คนๆ ไปเรื่อยๆ จนถั่วเขียวเริ่มบานออก แล้วจึงใส่น้ำตาลทรายแดง เหยาะเกลือนิดหน่อย (ย้ำ! ว่านิดเดียว) ชิมรสหวาน จืดตามใจชอบ แล้วตักกินได้เลย (ระวังร้อน)
- เกร็ด ที่ต้องใส่น้ำตาลทีหลังเพราะถ้าเราใส่น้ำตาลลงไปก่อน จะทำให้จุดเดือดของน้ำสูงขึ้น ทำให้ถั่วสุกยากขึ้นนั้นแล
- คำเตือน เนื่องจากหลังจากปรุงเสร็จ ถั่วเขียวจะขยายตัวเป็นปริมาณประมาณ 1.5 เท่าของปริมาณเดิม ดังนั้นเวลากะก็กะให้พอว่ามันขยาย 1.5 เท่าแล้วไม่เหลือ ไม่ล้นเกิน
- หลายคนคงนึกด่าผมในใจ “ไอ้เฮ้ แล้วจะรู้ได้ไงฟร่ะ ว่ามันสุกแล้ว” ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน เดาๆ เอาว่ามันหอมๆ แล้วเปลี่ยนสีก็ยกขึ้น
Tips & Hints
ถั่ว เขียวต้มน้ำตาลเป็นอาหารปราบเซียน ชื่อเหมือนทำง่าย แต่ต้องให้เทคนิค และเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเยอะถ้าจะทำให้ดีได้ หรือ เรียกได้ว่าเป็นเมนูลูกแหง่ เลยก็ว่าได้ เพราะต้องหมั่นดูเสมอ
1. เวลาคั่วต้องคั่วด้วยไฟอ่อน ห้าม ให้ สุกมากไปหรือ มีสีดำเด็ดขาด เพราะจะทำให้เวลาต้ม ถั่วจะไม่มีวันนิ่ม หรือถ้าต้มนานๆ การสุกก็จะไม่สม่ำเสมอ
2. การดูว่า เวลาต้มถั่วสุกไหม ต้องหมั่นดู ทุก 5 นาทีเพราะระยะจากสุก กลายเป็นบานเละ ห่างกันไม่มาก ต้องหมั่นดูเสมอ
3.คนมากคนแรงไม่ได้เพราะจะทำให้น้ำขุ่นไม่น่าทาน
4.ใจร้อนใส่น้ำตาลเร็ว ก่อน ถั่วนุ่มสุกไม่ได้ เพราะน้ำตาลเมื่อละลายในน้ำ ทำให้น้ำมีความเข้มข้นสูงขึ้น ถั่วเขียวจึงสุกยาก (มาก)
5. น้ำตาลมีผลทำให้น้ำใสขึ้นได้
6. ถ้าใส่น้ำตาลทรายแดง(น้ำตาลที่ไม่ฟอกสี)จะอร่อยยิ่งขึ้น น้ำตาลทรายแดงจะหอมหวาน และเข้ากันกับถั่วเขียวมากกว่าน้ำตาลทรายขาวครับ
7. ใช้ไฟ แรงๆ น้ำไม่ต้องมากพอถั่วเขียวแตกใส่น้ำตาล ต้มให้น้ำตาลเข้าเนื้อถั่วดีแล้ว ค่อยเติมน้ำลงไป ตามที่ต้องการ ใช้ไฟอ่อนจนเดือน เราก็จะได้ถั่วเขียวต้มน้ำใส
เห็นเคล็ดลับแล้ว ต้องบอกเลยว่า เมนูปราบเซียนจริงๆครับ ถ้าจะทำให้ดีได้
จะเห็นได้เลยว่าเมนูนี้ สูตรอาหารไม่เกี่ยว เทคนิควิธีการ และฝีมือล้วนๆ
———————————–
ทีนี้ เรามาดูเรื่องของถั่วเขียวกันบ้าง
สรรพคุณ
- ถั่วเขียวมีฤทธิ์เย็น รสหวาน ทำให้มีคุณสมบัติเด่นในการขับร้อน แก้ร้อนใน กระหายน้ำ ช่วยขับปัสสาวะและของเหลวอื่น ๆ รักษาอาการบิด แก้หวัด คออักเสบ ถอนพิษที่เกิดจากสารหนู
- ช่วยลดความดันโลหิต แก้เบาหวาน บำรุงสายตา เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของไตและม้าม
- แก้อาการตกขาว และอาการน้ำอสุจิเคลื่อนบ่อย (อันนี้ ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันนะ ว่าเคลื่อนยังไง)
- เปลือกหุ้มเมล็ดถั่วเขียวเป็นแหล่งเส้นใยที่ดี จึงช่วยป้องกันท้องผูกริดสีดวงทวาร ช่วยรักษาโรคตาแดง ตาอักเสบ ช่วยให้เจริญอาหาร
- ถั่วเขียวมีปริมาณไขมันต่ำกว่าถั่วลิสงและถั่วเหลือง จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
วิธีใช้
- ต้มถั่วเขียวกับน้ำตาล หรืออาจไม่เติมน้ำตาลก็ได้ กินเป็นยาและอาหาร ช่วยแก้ร้อนในและเพิ่มพลัง
- ต้มถั่วเขียวกับแกนกะหล่ำปลี กรองเอาเฉพาะส่วนน้ำมาดื่ม รักษาอาการคางทูม
- ต้มถั่วเขียวกับลูกเดือยและสะระแหน่ เติมน้ำตาลเล็กน้อย กินรักษาอาการร้อนใน ตาแดง ริดสีดวงทวาร และโรคผิวหนัง
- ต้มถั่วเขียวกับแตงกวา ฟักทอง และเปลือกแตงโม กินแก้ร้อนใน ถอนพิษ และบำบัดโรคผิวหนัง
- ต้มถั่วเขียวกับถั่วแดง และลูกเดือย กินบำบัดอาการของโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร บวมน้ำ หรือต้องการถอนพิษ
- ต้มถั่วเขียวกับสาหร่ายทะเล และน้ำตาลกรวด กินเพื่อลดระดับไขมันในเส้นเลือดและช่วยลดความดันโลหิต
- ต้มถั่วเขียวโดยไม่ใส่น้ำตาล กินทุกวันจะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยเบาหวาน
ข้อควรระวัง
- ผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับม้าม หรือท้องเสียบ่อย ๆ ไม่ควรกิน